ตะกั่วบัดกรีที่ดี ต้องมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับงานบัดกรีและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน:
1. ส่วนผสมที่เหมาะสม
• ตะกั่วบัดกรีที่ใช้ในงานอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป มักประกอบด้วย ดีบุก (Sn) และ ตะกั่ว (Pb) ในอัตราส่วน 60/40 หรือ 63/37 (ดีบุก/ตะกั่ว) ซึ่งมีจุดหลอมเหลวต่ำและไหลตัวดี
• ในกรณีที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารตะกั่ว ควรใช้ ตะกั่วบัดกรีปราศจากตะกั่ว (Lead-Free) ที่มักประกอบด้วยดีบุก (Sn), เงิน (Ag) และทองแดง (Cu)
2. จุดหลอมเหลวต่ำ
• ควรมีจุดหลอมเหลวที่เหมาะสม (ประมาณ 183–190 °C สำหรับตะกั่ว-ดีบุก และประมาณ 217–240 °C สำหรับตะกั่วบัดกรีปราศจากตะกั่ว) เพื่อให้ใช้งานง่ายและลดโอกาสที่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะเสียหายจากความร้อน
3. การไหลตัวที่ดี
• เมื่อละลายแล้วควรไหลตัวได้ดีเพื่อช่วยให้เกิดการยึดติดระหว่างชิ้นส่วนได้อย่างแน่นหนา
• ไม่ควรเกิดฟองอากาศหรือเนื้อบัดกรีหยาบ
4. มีฟลักซ์ในตัว
• ตะกั่วบัดกรีที่ดีควรมี ฟลักซ์ (Flux) อยู่ภายในแกน เพื่อช่วยทำความสะอาดพื้นผิวของโลหะที่จะบัดกรี ลดออกไซด์ และเพิ่มความสามารถในการยึดติด
• ฟลักซ์ที่นิยมใช้คือ Rosin Core ที่ปล่อยควันน้อยและไม่กัดกร่อน
5. เนื้อโลหะบริสุทธิ์
• ควรมีความบริสุทธิ์ของเนื้อโลหะสูง เพื่อลดการเกิดออกไซด์ในระหว่างการบัดกรี
• ตะกั่วบัดกรีที่มีสิ่งเจือปนมากอาจทำให้เกิดรอยร้าวในเนื้อบัดกรีหรือยึดติดไม่แน่น
6. ขนาดและความหนาของเส้นที่เหมาะสม
• ควรเลือกเส้นตะกั่วบัดกรีที่มีขนาดเหมาะสมกับงาน เช่น
• เส้นเล็ก (0.6–0.8 มม.) สำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียด
• เส้นใหญ่ (1.0–2.0 มม.) สำหรับงานทั่วไปหรือสายไฟ
7. ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• หากต้องการใช้งานในที่ที่เคร่งครัดเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพ ควรเลือก ตะกั่วบัดกรีปราศจากตะกั่ว ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RoHS (Restriction of Hazardous Substances)
สรุป
ตะกั่วบัดกรีที่ดีควรมีคุณสมบัติในการยึดติดที่แน่นหนา ไหลตัวดี จุดหลอมเหลวต่ำ มีฟลักซ์ในตัว และปราศจากสารเจือปนที่เป็นอันตราย เลือกใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของงานที่ต้องการ!
#ตะกั่วบัดกรี
voltextra.com